ห้องย้อมไปด้วยเลือดสีแดงฉาน มีกลิ่นเหล็กขนาดชวนให้สำลัก และศพของนักผจญภัยที่โดนขยี้ส่วนหัวอย่างโหดร้าย! หลังคลี่คลายปัญหาเหตุวุ่นวายในงานมอนสเตอร์ฟิเลียได้ไม่นาน พวกอายส์ก็ต้องเข้าไปพัวพันกับเหตุการณ์ฆาตกรรมปริศนา ขณะที่พวกเธอลงมือตรวจสอบไล่ตามฆาตกรที่เล่นงานนักผจญภัยระดับสูงก็ต้องเผชิญกับเรื่องราวที่จะสั่นคลอนเมืองและทางวงกตระหว่างที่แย่งชิงอัญมณีปริศนา โดยมีเวทีบนพื้นกับใต้ดินสลับกัน ความมืดที่ซ่อนอยู่ในโอราริโอก็เคลื่อนไหวอย่างเงียบ ๆ

"โลกิ แฟมิเลีย" เตรียมเดินทางกลับบ้านหลังจากสู้ศึกในชั้น 59 จนได้รับชัยชนะ แต่เพราะมีเหตุการณ์ผิดปกติเกิดขึ้นในดันเจี้ยน ทำให้การเดินทางต้องหยุดชะงัก และต้องตั้งแคมป์พักแรมกันที่ชั้น 18 แทน และที่นั่นเองอายส์ก็ได้เจอกับเด็กหนุ่มผมขาวอีกครั้ง...

"บอกแล้วใช่ไหม พวกหางแถมน่ะอย่าทำตัวเป็นตัวถ่วง" เบท โลกก้า คือ หมาป่าผู้โดดเดี่ยวแห่ง "โลกิ แฟมิเลีย" ที่ยึดมั่นในความแข็งแกร่งมากกว่าใคร ๆ และตอนที่เขาหัวเราะเยาะคนตายในการหลบหนีออกจากเส้นทางวงกตที่มนุษย์สร้างขึ้นก็ทำให้สมาชิกในกลุ่มเริ่มต่อต้าน.... จู่ ๆ เบทก็ถูกเด็กสาวอเมซอนคนหนึ่งตามตื๊อขอความรัก และในขณะที่เบทพยายามแก้ไขเรื่องราวไปทีละอย่าง ก็บังเอิญจับพลัดจับพลูต้องไปอาศัยอยู่ร่วมกับเธอ! แม้เบทจะไม่ชอบใจนัก แต่การใกล้ชิดกับเธอก็ทำให้ความทรงจำเกี่ยวกับ "เขี้ยว" หวนกลับคืนมา จนต้องเผชิญหน้ากับตัวเองในอดีตอีกครั้ง ส่วนทางด้านกลุ่มของยมทูตก็เริ่มเคลื่อนไหวอย่างลับ ๆ และตัวการที่ทำให้เบทต้องเสียพวกพ้องไป ก็กำลังปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าอีกครั้ง นี่คือเรื่องราวของอีกหนึ่งแฟมิเลีย "ซอร์ด โอราโทเรีย (ตำนานศักดิ์สิทธิ์ขององค์หญิงดาบ)"