Showing 838–846 of 1020 results

"จงปั๋วหกโจว" ถูกประเคนยกให้แก่ศัตรูต่างแคว้น "เสิ่นเจ๋อ" ชวนถูกคุมตัวมายังเมืองหลวง ถูกประณามหยามเหยียดจากทุกคน เมื่อ "เซียวฉือเหย่" ได้ข่าว ก็มิร้องขอให้ผู้ใดลงมือแทนเขา หมายมั่นจะเตะเสิ่นเจ๋อชวนให้กลายเป็นคนพิการด้วยตนเอง แต่ใครจะรู้เล่าว่า เจ้าคนอ่อนแอขี้โรคนี่จะแว้งกัดเขาจนเลือดสาด และนั่นคือจุุดเริ่มต้นความแค้น ระหว่างชายหนุ่มทั้งสองที่จำต้องฉีกทึ้งกันทุกครายามเผชิญหน้ากัน "ห้าปีก่อนข้าเคยถีบเจ้าหนึ่งที แค้นหรือไม่" เสิ่นเจ๋อชวนตอบ "หากข้าตอบว่าแค้น มิใช่เป็นการเอาแต่คิดถึงเจ้าหรือ ไม่แค้นหรอก ไม่เลยแม้แต่นิดเดียว" เซียวฉือเหย่วางท่า "เช่นนั้นก็น่าเสียดาย หากเจ้าแค้นข้า วันนี้ย่อมได้ล้างแค้น" ลมหนาวพัดมาพร้อมความเยียบเย็น เซียวฉือเหย่พูดเสริมอีกประโยคอย่างเชื่องช้า "...ถ้าเจ้าทำได้นะ"
"เจ้าก้าวเข้ามาในถิ่นของข้าทีละก้าว ปล่อยให้ข้าหยั่งเชิงเจ้าครั้งแล้วครั้งเล่า จุดประสงค์ก็เพื่อค่ำคืนนี้ เพื่อลงเรือลำเดียวกับเข้า" เซียวฉือเหย่โน้มตัวไปข้างหน้าช้า ๆ สายตาเย็นชา "แต่หากคืนนี้ข้าสืบไม่ได้ว่าผู้บงการเบื้องหลังคือ...ไม่ล่วงรู้จุดประสงค์ของเจ้า เจ้าก็จะเหยียบข้าลงไป อย่างแท้จริง ใช้ข้าเป็นแท่นเพื่อก้าวขึ้นไปใช่หรือไม่" "เจ้าเป็นหมาป่าจมูกไว" เสิ่นเจ๋อชวนพูด "ไฉนจึงพูดเหมือนตัวเองน่าสงสารเช่นนั้นเล่า หากข้ามิใช่ข้า เจ้าไม่มีทางเปิดโอกาสให้ข้าเหยียบย่างเข้ามา พวกเราจะไม่มีแม้กระทั่งการสนทนากันด้วยซ้ำ เจ้ากับข้าเป็นคนประเภทนี้แหละ แทนที่จะมาคาดคั้นข้า ไยจึงไม่ถามตัวเจ้าเองดูก่อนเล่า" เซียวฉือเหย่พูด "เจ้าต่างหากที่เป็นสารเลว" เสิ่นเจ๋อชวนตอบ "สารเลวที่มีเป้าหมายเดียวกันหาไม่ง่ายนะ"
เสิ่นเจ๋อชวนพูด "ข้าเช็ดคราบเลือดไม่ออกแล้ว" เซียวฉือเหย่ตอบ "พวกเราจะเข้าสู่แดนอสูรด้วยกัน แนบชิดอยู่ด้วยกัน ไม่ต้องทำตัวให้สะอาดอีกแล้ว" ริมฝีปากบางของเสิ่นเจ๋อชวนเม้มเล็กน้อย "ข้า..." เซียวฉือเหย่บีบริมฝีปากที่เม้มเข้าด้วยกันแน่นของเขา ให้เปิดออก "เจ้าจะพูดอะไรกับข้า" ผ่านไปครู่ใหญ่ก็ได้ยินเสิ่นเจ๋อชวนพูดเสียงเจือสะอื้น "ข้าเจ็บเหลือเกิน"
"เกราะแขนอันนั้นไม่เลวนี่" เซียวฟางซวี่เหยียบราวกั้นไม้และนั่งลงเห็นเซียวฉือเหย่หันกลับมา จึงเบี่ยงตัวมองสีหน้าของเขา "ทำจากที่ใด ไม่ใช่แบบของฉี่ตง" "ต้องไม่เลวอยู่แล้ว" เซียวฉือเหย่ทำท่าเหมือนกำลังพูดความลับ "นั่นเป็นยันต์คุ้มภัยของข้า" เซียวฟางซวี่ตอบรับว่า "อืม" อย่างไม่ใส่ใจนัก จากนั้นถามต่อ "เป็นคนที่ใด คงมิได้ถูกเจ้าพาไปอยู่ค่ายเปียนปั๋วด้วยกระมัง ที่นั่นมีแต่ผู้ชายหยาบกระด้าง นางอายุเท่าไรแล้ว" เซียวฉือเหย่ย้อนถาม "นาง?" เซียวฟางซวี่ฟังไม่เข้าใจ เซียวฉือเหย่ถอยไปหลายก้าว เซียวฟางซวี่หรี่ตา "เจ้าคงมิได้พาบุตรสาวสกุลฮวากลับมาด้วยหรอกนะ"
"เซียนเซิงคืนชีวิตนี้ให้ข้าแล้ว อาเหย่" เสิ่นเจ๋อชวนหลอมละลายในกลิ่นอายอันคุ้นเคยนี้ใช้แก้มถูไถแผ่นหลังของเซียวฉือเหย่เหมือนสัตว์ตัวน้อยที่ตามกลิ่นมา "อาเหย่..." เซียวฉือเหย่ยกมือขึ้นกดเสิ่นเจ๋อชวนไว้หันศีรษะมาครึ่งหนึ่ง จะมองตาเขาเสิ่นเจ๋อชวนลืมตา ในนั้นกลับไม่มีแววล้อเล่นเขาขยับปลายนิ้วเข้าไปใกล้แก้มของเซียวฉือเหย่ เอ่ยว่า...
"ซาคาเอะ" เริ่มทำงานเป็นชีฟโปรดิวเซอร์ของ 'เดอะนิวส์' ตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิตามการจัดแจงของ "ชิตาระ" แต่เพราะดันเผลอฉายเดี่ยวตั้งแต่ออกอากาศวันแรกจนคนรอบข้างผงะไปตาม ๆ กัน หลังจากนั้นซาคาเอะจึงหันมาสงวนท่าที ทำตัวไม่มีพิษภัยกับใคร ถึงรู้ดีแก่ใจว่าชิตาระเรียกตนมาอยู่ข้าง ๆ โดยตั้งใจจะรับผิดชอบทุกอย่างไม่ว่าซาคาเอะจะทำอะไรบ้าบิ่นแค่ไหน แต่การทำตามใจอิสระมันก็ยากอยู่ดี ขณะเดียวกันความร้อนใจอยากตอบสนองความคาดหวังของอีกฝ่ายก็ยังไม่หายไป แต่แล้วบุคคลที่ไม่คาดฝันก็เรียกซาคาเอะไปหา...? ภาคต่อของ 'เติมเต็มหัวใจ'!!
หาก "เดือนธันวา" ไม่ได้เป็นเพียงเดือนเดือนหนึ่งในปฏิทิน และ "ลมหนาว" ไม่ได้เป็นเพียงสายลมที่พัดผ่านมาแล้วพัดผ่านไป หากแต่เป็นสายลมที่เต็มไปด้วยเรื่องราวความรักระหว่างคนสองคน ที่ต้องปิดซ่อนไว้เพราะความจำเป็น…แต่ความน่ารักของลมหนาว ทำให้เดือนเผลอแสดงออกอยู่บ่อยครั้ง แล้วแบบนี้เดือนจะปกปิดความลับนี้ต่อไปได้อีกนานเท่าไหร่กันนะ...
เรือนโบราณสองชั้นหลังใหญ่ ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางธรรมชาติริมเชิงเขา แผ่กลิ่นอายอันลึกลับน่าค้นหา รอการมาถึงของคณะทำงานจากต่างถิ่น ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ "เขน" copywriter รุ่นใหม่ไฟแรง ที่มีหน้าที่สร้างจุดขายให้กับรีสอร์ตเชิงอนุรักษ์แห่งนี้
คุณเห็นผู้ชายคนนั้นมั้ย คนที่หน้าตาหล่อๆ มีออร่าจับ คิ้วเข้มๆ ตาคมๆ แต่ชอบทำหน้าเซ็งอยู่ตลอดเวลา เขาคนนั้นแหละครับที่ทำให้ผมเลือกเรียนที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ และทำให้ผมมายืนที่นี่ ณ เวลานี้ ในการเข้าร่วมประกวดดาวเดือนเพื่อต้องการอยู่ใกล้ชิดกับเขา เพราะเขาเป็นถึงรุ่นพี่ที่ผมแอบปิ๊งมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม - วาโย พาณิชยสวัสดิ์ (โย)

Recently Viewed