Showing 703–711 of 1020 results

นับตั้งแต่แมวแสนรักอย่าง "สปาร์ตา" หายตัวไป "ซินฉิน" ก็เลิกเป็นสตรีมเมอร์ และหันมาเปิดร้านอาหาร ชื่อว่า "ร้านเล็ก ๆ ที่ทำให้สปาร์ตากินอิ่มได้" แต่แล้ววันหนึ่ง เขาก็ได้พบกับ "อาหลี" เด็กหนุ่มประหลาดผู้มีรสนิยมเหมือนนักเลงตกยุค พร้อมด้วยบรรยากาศที่ชวนให้นึกถึงสปาร์ตา ว่าแต่..แมวกลายเป็นคนได้ด้วยหรือ? แน่นอนว่าถ้าใครอยากรู้คำตอบของคำถามนี้ เห็นทีคงต้องช่วยซินฉินของเราตามสืบในเล่มสุดท้ายของ "มรดกตกเหนียว" แล้วละ!
"หยกโบราณ" สลักภาพพิธีกรรมของอารยธรรมที่สาบสูญ ทำให้เลือดลมของผู้คลั่งไคล้ประวัติศาสตร์พลุ่งพล่าน ด้วยเหตุนี้คณะสำรวจซึ่งประกอบด้วยหนุ่มสาวและศาสตราจารย์ภาควิชาโบราณคดีจึงมุ่งหน้าสู่ดินแดนทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศด้วยจิตใจฮึกเหิมกระตือรือร้น ทว่า... เพิ่งจะเหยียบย่างเข้ามาในอาณาเขต ยังไม่ทันไปถึงจุดหมาย ทั้งคณะก็ต้องเจอกับเรื่องประหลาดอันไม่อาจหาเหตุผลมาอธิบาย ทั้งยังได้พบกับกลุ่มโจรขุดสุสานที่พกพากำลังคนและอาวุธครบมือ เป้าหมายของพวกเขาคือหยกโบราณชิ้นนั้น กุญแจที่จะพาเข้าไปยังเมืองโบราณใต้ดินซึ่งซุกซ่อนสมบัติมหาศาล!
"จี้อวี่สือ" คิดถึงแมวแล้ว แน่นอนว่าตอนจากมานั้น เขาไม่ได้พาแมวไปที่สาขาหนิงเฉิง แล้วฝากให้เพื่อนร่วมงานช่วยเลี้ยงจริง ๆ หรอก แต่ส่งไปที่บ้านของ "จี้หมินเย่ว์" ล่วงหน้าแทน จากมาหนึ่งเดือน ไม่รู้ว่าเจ้านายทั้งหลายของเขาจะคิดถึงเขาหรือเปล่า เขาเดาว่าน่าจะคิดถึงแหละ บนโลกใบนี้ไม่มีเรื่องอะไรที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลายได้มากกว่าการลูบเจ้าแมวเหมียวอีกแล้ว แค่คิดมุมปากของจี้อวี่สือก็ยกขึ้นมาน้อย ๆ แต่การเดินทางกลับบ้านไปลูบแมวหลังเสร็จสิ้นภารกิจกลับ "ไม่ง่าย" อย่างที่คิด และภารกิจที่คิดว่าสำเร็จแล้วก็ "ไม่ใช่" อย่างที่คิดเช่นกัน...
ร่มไม้นอกหน้าต่างเขียวชอุ่ม แสงแดดสดใส "ม่านหมอก" ซึ่งปกคลุมอยู่ตรงหน้า ในที่สุดก็มีวันที่ถูกแสงอาทิตย์อันเจิดจ้าปัดเป่าออกไป กาลเวลาเปลี่ยนผัน มีเพียงความรักที่คงอยู่ชั่วนิรันดร์ ไม่เคยมีช่วงเวลาไหนที่เขารู้สึกว่าตัวเองโชคดีขนาดนี้มาก่อนเลย จากไม่มีอะไรจนได้ครอบครองทุกสิ่ง เข้าคือ "จี้อวี่สือ และก็คือ..." เช่นกัน
ณ หมู่บ้านชนบทแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น เป็นที่สถิตของ "เซย์ริว" เทพมังกรสีเงินผู้มีหน้าที่ปกปักรักษาหมู่บ้าน ผืนป่า และลำน้ำ ท่านเทพมังกรได้พบกับเด็กน้อยคนหนึ่งใกล้ลำธารขณะกำลังพักผ่อน ด้วยความนึกสนุกจึงแปลงกายเป็นมนุษย์มาเล่นกับหนูน้อย "มาโกโตะ" ทั้งสองแอบมาเล่นด้วยกันทุกวันในป่าแห่งนี้ จากวันเป็นเดือน จากเดือนเป็นปี จนความผูกพันฉันเพื่อนแปรเปลี่ยนไปเป็นความรู้สึกลึกซึ้ง และวันหนึ่ง...มาโกโตะก็ต้องจากไป แต่ทั้งสองก็ให้สัญญาว่าจะกลับมาพบกันอีกครั้งในทุกปีของช่วงฤดูร้อน ทว่า...
ยามลมหวนเมื่อใด "หมื่นพลทัต" เป็นต้องคิดถึงเด็กน้อยในความทรงจำของตนอยู่เสมอมิรู้ว่าจำปาดอกนั้นกำลังจ้องมองกันอยู่แห่งหนใดเหตุการณ์เสียกรุงเมื่อสิบปีที่แล้วทำให้ชีวิตของเขามีอันต้องแปรเปลี่ยนจากบุตรชายคนโปรดจากตระกูลมั่งคั่ง กลับกลายเป็นเด็กกำพร้าไร้บิดามารดาสรรพสิ่งที่ทำให้เกิดทุกข์หล่อหลอมหัวใจชายหนุ่มให้ด้านชาใบหน้าแสนเย่อหยิ่งยากที่จะยิ้มให้แก่ผู้ใด
"มูรยอง" เป็นลูกคนสุดท้องของตระกูลคิม หนึ่งในตระกูลมือปราบวิญญาณชื่อดังที่ยังคงเหลืออยู่ในปัจจุบัน เขาเติบโตมาด้วยความรักจากคนในครอบครัว มีพี่สาว พี่ชาย และเจ้าหมาน้อยอย่างละหนึ่ง มูรยองยังได้รับคำทำนายว่าเป็นผู้มีพรสวรรค์ที่ในรอบร้อยปีจะมีสักคนอีกด้วย ดังนั้นในทุก ๆ วันเขาจะไปเรียนหนังสือพร้อมกับรับจ็อบเสริมตามพรสวรรค์ นั่นคือการใช้พลังวิญญาณของตนช่วยเหลือคนทุกเพศทุกวัย
"ฮวานฮีไม่มาหาฉันแล้ว "หลังจากที่ "มูรยอง" ได้ทำความรู้จักกับ "ฮวานยอง" และใช้เวลาร่วมกันมากยิ่งขึ้น ฮวานยองก็พบว่า "ฮวานฮี" ผู้เป็นน้องสาวไม่ได้มาหาเขาอีกเลย และนั่นก็ส่งผลกระทบต่อแผนการส่งเธอไปสู่สุคติอย่างยิ่ง มูรยองจึงคิดหาหนทางที่จะ "ล่อ" น้องสาวผมยาวของฮวานยองออกมา สิ่งแรกที่ต้องทำก็คือการแอบซ่อนพลังวิญญาณของมูรยองเอาไว้ให้มิดชิด "โดยปกติแล้วปีศาจมีแนวโน้มที่จะอาศัยความรู้สึกมากกว่าการมองเห็น เพราะงั้นนายต้องคอยเอาพลังวิญญาณของนายมาคลุมฉันเอาไว้ จนดูเหมือนว่าฉันไม่ได้อยู่ข้าง ๆ นาย" และหนึ่งในวิธีที่มือปราบวิญญาณผู้มีพรสวรรค์คิดขึ้นมาได้ ก็คือเขาทั้งคู่ต้องกอดกันและกันให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้นั่นเอง
ทั้งชีวิตที่ผ่านมา ระยะเวลาที่ "ฮวานยอง" ได้สัมผัสกับความรักนั้นช่างแสนสั้น ครอบครัวจากไป เหลือเพียงเขาที่ใช้ชีวิตร่วมกับความโดดเดี่ยวเพียงลำพัง วันเวลาไหลรินไปเรื่อย ๆ วันแล้ววันเล่า กระทั่งได้พบกับ "มูรยอง" รวมทั้งสมาชิกในครอบครัวมือปราบตระกูลคิม ฮวานยองถึงได้สัมผัสกับสิ่งที่เรียกว่าความรักอีกครั้ง คนที่ขาดแคลนความรักและความปรารถนาดีอย่างเขา จึงเรียนรู้วิธีการแสดงออกทั้งหมดจากมูรยอง